รีวิวนิยาย – Gamers! (เล่ม 2)
นิยายเลิฟคอมาดี้ อ่านสนุกและฮามาก เรื่องราวของพระเอกธรรมดาที่มีชีวิตธรรมดาที่เริ่มจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว!? เรื่องราวรักวุ่นๆ ของเหล่าเกมเมอร์สต่อจากเล่มที่แล้วครับ https://karnlab.com/review-gamers-1/
แนะนำตัวละคร
เทนโด คาเรน – สาวสวยผู้เป็นไอดอลของโรงเรียน เรียนเก่ง แถมเล่นเกมส์เก่งอีกต่างหาก ผู้มีชีวิตต่างจากพระเอกของเราราวฟ้ากับเหว
อามาโนะ เคตะ – เกมเมอร์หนุ่ม ผู้มีชีวิตสุดแสนธรรมดา ชอบเล่นเกมส์ แต่เล่นไม่เก่งสักเกมส์ ซึ่งชีวิตของเขาหลังจากเล่มนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
โฮชิโนะโมริ จิอากิ – เกมเมอร์สาว ผู้มีบุคลิกและนิสัยทุกอย่างเหมือนอามาโนะ (ราวกับเกิดมาเพื่อเป็นคู่กัน) แต่ดันมีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องความโมเอะ* ทำให้ต้องทะเลาะกันบ่อยๆ (มักถูกอามาโนะ เรียกว่า “ยัยสาหร่ายวากาเมะ”)
อุเอฮาระ ทาสุกุ – หนุ่มเรียจู** ผู้มีชีวิตเพอร์เฟค และตอนนี้เป็นเพื่อนสนิทกับอามาโนะ
อากุริ – สาวแกล*** แฟนสาวของทาสุกุ และเป็นที่ปรึกษาเรื่องความรักให้อามาโนะ
มิสุมิ เออิจิ – เด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ในการเล่มเกมส์ ผู้มาพร้อมกับเรื่องราวปริศนาและองค์กรลึกลับ
คาเสะ กาคุโตะ – รุ่นพี่ชมรมเกมส์ ชายผู้เทพเกมส์แนว Shooting
โออิโสะ นิอินะ – รุ่นพี่ชมรมเกมส์ สาวผู้เทพเกมส์แนว Fighting
* โมเอะ (ญี่ปุ่น: 萌え moe) เป็นศัพท์สแลงในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง ความน่ารักของตัวละครในมังงะ อนิเมะ หรือวิดีโอเกม (อ้างอิง: https://th.wikipedia.org/wiki/โมเอะ)
** เรียจู (ญี่ปุ่น: 充実 juu ji tsu) แปลว่า ประสบความสำเร็จ หรือ มีความสุข หรือ เต็มอิ่มกับชีวิต เป็นคำที่มักใช้เพื่อประชด พวกที่ชีวิตบนโลกจริงๆ มีความสุข เรียนดี มหาลัยเด่น มีงานดี มีแฟน มีครอบครัว มีเงิน (อ้างอิง: https://pantip.com/topic/37878553)
*** สาวแกล (อังกฤษ: GAL) หมายถึง สาวช่างแต่งตัว ชื่นชอบแฟชั่น ชอบเข้าสังคม สนุกสนานกับการทดลองสิ่งใหม่ๆ เรามักจะเห็นพวกเธอแต่งหน้าทำผมจัดเต็มและแต่งตัวตามแฟชั่น (อ้างอิง: https://siratawan42.wordpress.com/2013/05/23/how-to-be-a-japanese-gal)
การรวมกลุ่ม
- ชมรมเกมส์ (เล่นเกมส์จริงจัง) – เทนโด คาเรน, มิสุมิ เออิจิ, คาเสะ กาคุโตะ, โออิโสะ นิอินะ
- สมาคมคนรักเกมส์ (เล่นเกมส์เรื่อยเปื่อย) – อามาโนะ เคตะ, โฮชิโนะโมริ จิอากิ, อุเอฮาระ ทาสุกุ, (อากุริ)
เรื่องราวความรักที่วุ่นวายกว่าเดิม
เทนโด คาเรน – แอบมีใจให้อามาโนะ
อามาโนะ เคตะ – แอบชอบเทนโดซัง, มีจิอากิเป็นภรรยา เอ้ย! เป็นคู่กัด, มีอากุริเป็นที่ปรึกษาความรัก
โฮชิโนะโมริ จิอากิ – แอบชอบทาสุกุ, มีเคตะเป็นสามี เอ้ย! เป็นคู่กัด, เข้าใจผิดว่าเคตะเป็นแฟนอากุริ
อุเอฮาระ ทาสุกุ – มีอากุริเป็นแฟน, แต่กำลังสงสัยว่าอากุริแอบมีใจให้อามาโนะหรือเปล่า?
อากุริ – มีทาสุกุเป็นแฟน, แต่กำลังสงสัยว่าทาสุกุแอบมีใจให้จิอากิหรือเปล่า?
เรื่องราวโดยย่อ
บทที่ 1 – มีเกมออกใหม่เกมหนึ่ง (คริเคร 3) อามาโนะ สั่งจองไว้ 2 แผ่น และเห็นว่าเทนโดซังอยากได้เกมส์นี้ แต่ก็ยังหาซื้อไม่ได้ อามาโนะตั้งใจจะมอบเกมนี้ให้เทนโดซัง เพื่อจะได้เป็นเพื่อนกับเธอ แต่ว่าระหว่างภารกิจตามหาเทนโดซังในเมือง เขาก็พบกับชายวัยกลางคนประหลาดคนหนึ่งที่อยากได้เกมนี้เหมือนกัน สุดท้ายแล้วอามาโนะก็มอบเกมนั้นให้เขาไป แทนที่จะเป็นเทนโดซัง แต่จริงๆ แล้ว เขาคือ…..
บทที่ 2 – ระหว่างการประชุมของสมาคมคนรักเกม คู่สามีภรรยา เอ้ย! เคตะ และจิอากิ ก็ยังคงถกเถียงกันเรื่องความโมเอะเช่นเคย
บทที่ 3 – อามาโนะ มากรึกษาเรื่องความรักกับอากุริ และฟังความกังวลของเธอเกี่ยวกับทาสุกุ
บทที่ 4 – บทนี้เว่อร์วังอลังการมาก เล่าเรื่องราวการผจญภัยของมิสุมิผู้มีพรสวรรค์ในการเล่นเกมส์ (ผมนึกว่ากำลังอ่าน Sword Art Online อยู่หรือเปล่า? 555) เรื่องราวเริ่มจากมิสุมิจำอะไรไม่ได้เลย รู้สึกตัวอีกทีก็ได้รับการอุปการะจากบ้านหลังหนึ่ง และเขาเองก็น่าจะเกี่ยวข้องกับองค์กรลึกลับ จากนั้นเขาก็ได้ลงแข่งเกมแบบทัวร์นาเมนต์ เขาฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ได้พบกับคู่แข่งหลากหลาย และในที่สุดเขาก็ได้แชมป์โลก
บทที่ 5 – ฝีมือการเล่นเกมส์ของเทนโดซังแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนว่าเธอจะมีใจให้อามาโนะเสียแล้ว!? เธอได้พบกับอามาโนเและก็ได้พูดคุยกันในที่สุด
บทที่ 6 – บทสรุปเรื่องราวความรักในเล่มนี้ อามาโนะตัดสินใจว่าจะขอเป็นเพื่อนกับเทนโดซัง ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนๆ สุดท้ายแล้วตอนจบแบบที่อามาโนะเองไม่คาดฝันมาก่อน จึงเกิดขึ้น …
++ สำหรับเรื่องราวทั้งหมดไปอ่านในนิยายจะสนุกและฮามากๆ ครับ ><
สรุป
Gamers! (เล่ม 2) เป็นนิยายเลิฟคอมาดี้ที่หยิบขึ้นมาอ่านเมื่อไหร่ก็ฮาเมื่อนั้น ผมว่าเล่มนี้ฮากว่าเล่มแรกนะครับ (เล่มแรก เน้นปูพื้นตัวละคร เล่มสอง ใส่มุกจัดเต็ม) นิยายเล่มนี้ผมให้ 5 / 5 ดาว (ควรอ่านเป็นอย่างยิ่ง) เลยครับ
รายละเอียดหนังสือ
| ชื่อหนังสือ | ゲーマーズ! / Gamers! / เกมเมอร์ส |
| ผู้เขียน | เซกินะ อาโออิ |
| สำนักพิมพ์ | Kadokawa / Phoenix |
| ปีที่พิมพ์ | ต้นฉบับ 2015 / แปลไทย 2018 |
